แม่ครัวมือทำอาหาร เปิดใจ พ้อก่อนตัดสินคน ต้องดูให้ดี

จากกรณี ครูอ้อม นางสาวอ้อมอารีย์ แข็งฤทธิ์ อายุ 32 ปี ครูสอนนักเรียนชั้นอนุบาล 1 และอนุบาล 2 โรงเรียนวัดวงเดือน ต.สามง่ามท่าโบสถ์ อ.หันคา จ.ชัยนาท โพสต์ข้อความหลังถูกมือดีปาของสดกระจายเต็มหน้าห้องเรียนที่สอนประจำชั้นกลัวว่าจะถูกปองร้าย จากที่ทนไม่ไหวเกี่ยวกับคุณภาพชีวิตของเด็กๆ ที่ได้กินอาหารกลางวัน มีสารอาหารไม่ครบ ออกมาเปิดเผยว่าเด็กกินมาม่า ไม่ได้กินผลไม้ หรือของมีประโยชน์เหมือนโรงเรียนอื่นๆ ตามที่ทางทีมข่าวสยามนิวส์ได้เสนอไปแล้วนั้น

ล่าสุด เมื่อวันที่ 28 ส.ค. 62 นางไก่ (นามสมมติ) อายุ 70 ปี มารดาของแม่ครัว กล่าวว่า ลูกสาวโทรมาบอกว่ามีคนมาด่า มาไล่ด้วยถ้อยคำหยาบคาย "หน้าด้าน-ึงมานั่งอยู่ทำไม Tแหล ออกไปซะจะได้หมดเรื่อง" ความรู้สึกของคนเป็นแม่คนเลยทนไม่ได้
ทั้งนี้ ไม่รู้ว่าทำไมลูกสาวต้องมาโดนรุมอยู่คนเดียว เลยมาอยู่เป็นเพื่อน แต่ตอนนั้นเราช่วยอะไรเขาไม่ได้ ด่ามาก็รับไว้ แต่เราก็เสียความรู้สึก คนก็แก่แล้ว หนำซ้ำคนทั้งหมู่บ้านมาเล่นงานเด็กคนเดียว ต้องไปนั่งแอบท้ายครัว เพราะกลัวคนเหล่านี้
อย่างไรก็ตาม วันที่คณะกรรมการกับผู้เกี่ยวข้องเขามาตรวจสอบ ลูกก็กลัวมาแอบอยู่ข้างหลัง นั่งหลบมุม หัวอกคนเป็นแม่ก็เสียใจ ตอนนี้ทางโรงเรียนก็เชิญให้ออกแล้ว ทำงานถึงแค่วันศุกร์ (30 ส.ค.) เท่านั้น ตลอดเวลาช่วยกันทำมาหากินกันอย่างสุจริต ไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน แต่เมื่อยังมีมือมีเท้า ใครทำอะไรไว้ก็ถูกกรรมตามสนองเอง

เราและลูกไม่ได้เสแสร้ง เรื่องปาของสดตำรวจก็สอบแล้วอะไรแล้ว พวกชาวบ้านก็ลอยหน้าลอยตากันด่าลูกเรา ไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ แม่ครัวเหนื่อยขนาดไหนเคยคิดกันบ้างไหม ตีสี่ตีห้าจะนอนก็ไม่ได้นอน ต้องหาของมาให้กิน
"ครูอ้อมเขาก็ไม่มีอะไร มาตรวจสอบก็ไม่มีอะไร แล้วเขาก็ไม่มายุ่ง ทีนี้เรารับอยู่คนเดียว ไปดูสิข่าวลงอะไร นักข่าวที่มาขุดมาคุ้ยน่ะ มาช่วย หรือมาทำลาย ที่ทำให้คนไม่อยากอยู่มันแบบนี้หรือเปล่า ทำให้คนทำกินต้องกลายเป็นคนแบบนี้ โดนแบบนี้คุณจะว่าไง พวกฉันไม่มีการศึกษาจบ ป.4 ลูกแค่ ม.3 แต่ว่าแม่เป็นแม่ แม่เลี้ยงลูกมาแม่ไม่เคยด่าลูกแบบนี้ แต่เขามาด่าลูกฉัน ยายเสียใจมาก เสียใจจริงๆ"
ด้านนางพันทิพา เอี่ยมละเอียด แม่ครัวของโรงเรียน เผยว่า เรื่องการทำอาหารเด็กไม่ธรรมดานะ จุกจิกหลายอย่าง ต้องเอาใจผู้ปกครอง เอาใจครูด้วย บางทีถูกใจเด็กไม่ถูกใจครู เรื่องรับสมัครแม่ครัวใหม่ตนไม่รู้ แต่จะทำอาหารถึงวันศุกร์นี้เท่านั้น เขามาเชิญออกขนาดนี้แล้วเราก็ต้องออก อยากออก เรื่องมันไม่จบไม่สิ้น มีแต่ปัญหาถ้าเราอยู่รอบด้านก็ไม่จบ
อยากบอกกับทุกคนว่า ก่อนจะตัดสินคน ขอให้ดูกันหน่อย ไม่ใช่อยู่ๆกล่าวหาแม่ครัวเลว กินเงินเด็ก มันต้องดูก่อนไหม ดูเหตุผล ดูความเป็นจริง ไม่ใช่ทึกทักคนนั้นคนนี้ผิด คนที่โดนเวลาโดนก็เสียใจ เพราะไม่ใช่ตัวเรา มีพ่อแม่ พี่น้อง โทรมาถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น สภาพจิตใจทุกคนในครอบครัวแย่ ส่วนตัวเองก็แย่ แต่ไม่เป็นไรไม่ได้ขอร้องให้เขาเข้าใจเรา เพราะคนเรามีมุมของตัวเอง

วันนั้นเราทำผิดต้องขอโทษ แต่ที่ว่าไม่มีข้าวมันไก่ไม่จริง นักข่าวเห็นรายการสั่งอาหารแล้วไม่ได้เมคขึ้น ไปถามร้านค้าได้ถ้าสงสัย เมื่อวานก็ให้ปากคำกับตำรวจก็ตอบไปตามความจริง เราบริสุทธิ์ใจให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ เขาต้องการอะไรเราบอกเขาหมด
ส่วนการโพสต์ถุงสีแดงนั้น ครูอ้อมโพสต์ว่าเกิดเหตุตอนเช้า แต่เราโพสต์ถุงนั้นตอนเย็น หลังครูอ้อมถูกปาแล้ว เราโพสต์ตอนมืดแล้วประมาณ 2 ทุ่มกว่า เราไม่มีความรู้ ไม่ได้เรียนกฎหมาย จบแค่ ม.3 ทำกับข้าวได้ ไม่รู้ว่าจะปรึกษาใคร ไม่มีเพื่อนเป็นทนาย หรือคนรู้กฎหมาย
เราอยากป้องกันตัวเรา จึงโพสต์รูปถุงสีแดง แต่จะพูดไปก็จะเสียรูปคดีของตำรวจ คิดว่าจะโพสต์เล่นๆขำๆ อยากให้เขารู้ว่าถุงนั้นยังอยู่นะไม่ได้ทำอะไร ที่ลบโพสต์ออก เพราะเพื่อนเตือนว่ามันไม่ดี แต่ว่าถูกแคปหน้าจอไปแล้วก็ไม่เป็นไร มั่นใจว่าไม่ได้ทำ แต่ไม่เป็นไรสิ่งที่เกิดแล้วก็แล้วไป
ขณะเดียวกัน ช่วงเวลา 16.00 น. ทางผู้ปกครองกลุ่มหนึ่งและครูอ้อม พยายามขอลายเซ็นจากนายสุเทพ สิงห์สม ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดวงเดือน จนสำเร็จ และเดินทางไปยังสำนักงานเขตพื้นที่ประถมศึกษาชัยนาท เพื่อยื่นอุทธรณ์ แต่ก็ไม่เป็นผล
ทั้งนี้ เนื่องจากทางนางสาวลออ วิลัย ผอ.สพป.ชัยนาท ต้นสังกัด ได้มีการออกคำสั่งไปแล้ว ต้องเก็บของเดินทางมาทำงานที่ สพป.ชัยนาท ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป
โดยแหล่งข่าวรายหนึ่งระบุว่า ช่วงนี้มีคนมาดูแวะเวียนไปทุกวัน จึงกินดีอยู่ดีกว่าที่เคยเป็นมา.